Compare Listings

ฮวงจุ้ย กับ ความพอเพียง

ฮวงจุ้ย กับ ความพอเพียง

ในสมัยก่อนเรื่องของศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” มีความหมายคนละแบบ ไม่เหมือนคนยุคนี้ตีความนะครับ คนยุคดิจิตอลเอะอะอะไร ก็ต้องเอา “รวย” ไว้ก่อน ประมาณว่ามีเป็น “หมื่นล้าน” ก็สะกดคำว่า “พอ”ไม่เป็น การตีความเรื่อง “ฮวงจุ้ย” สมัยก่อนเป็นเรื่องของ “ปรัชญา” นะครับ เป็นคำสอนที่ให้เห็นถึงวิถีของธรรมชาติ ไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ “เหนือ” ธรรมชาติ แต่เรียนรู้ที่จะอยู่ “ด้วยกัน” กับธรรมชาติอย่างมีความสุข ฮวงจุ้ยในสมัยก่อนเลยถอดปรัชญามาจาก “พุทธศาสนา” อย่างชัดเจนครับ ไม่เคยมีในบทบัญญัติของ “ฮวงจุ้ย” ว่า ถ้าปฏิบัติตามตำราทุกอย่าง สิ่งนั้นจะมีความ “คงทนถาวร” เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วทำไมในหลายยุคหลายสมัย ราชวงค์จีนถึงได้ “ล่มสลาย” เปลี่ยนผัดมือในการครอบครอง “อำนาจ” จริงไหมครับ ทั้งๆที่ใครเป็น “ฮ่องเต้” ก็ต้องการ “ที่ดินมังกร” ทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าสักคน ทุกคนย่อมหลีกหนี “การเกิด การดำรงอยู่ การเสื่อมสลาย” ไม่ได้หรอกครับ เพราะฉะนั้นเราควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันไปครับ เป็นอย่างนี้ก็ต้องคิดดูเอาเองนะครับว่า สิ่งที่เราได้จากตำราของซินแสทั้งหลาย […]

จุดโชคลาภกับบ้าน 8 ทิศ

จุดโชคลาภกับบ้าน 8 ทิศ

การหาตำแหน่งการเงินหรือโชคลาภในบ้าน ตำราฮวงจุ้ยจะมีหลักในพิจารณาโดยการคำนวณการเดินของดาวทั้ง 9 ดวงกันเลยทีเดียว เรียกว่า ค่อนข้างจะยุ่งยากซับซ้อนไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่จะสรุปเอามาแบบง่ายๆ ให้ดูกันก็แล้วกัน เพราะถ้าอธิบายเป็นวิชาการ เดี๋ยวมึนกันเสียก่อน การหาจุดโชคลาภ โดยใช้หลักของการเดินดาว จะแบ่งบ้านออกเป็น 8 ลักษณะตามทิศหลักทั้ง 8 นั่นเอง บ้านแต่ละทิศจะมีจุดโชคลาภอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือจุดโชคลาภกับจุดสนับสนุนโชคลาภ เพื่อไม่ให้เสียเวลามาเริ่มกันที่บ้านทิศเหนือกันเลย ค บ้านทิศเหนือ คำว่าบ้านทิศเหนือ ขอให้เข้าใจไว้เลยว่า หมายถึงทิศหลังบ้านนะครับ ไม่ใช่หน้าบ้าน เดี๋ยวจะสับสนกันอีก เพราะคนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงทิศมักจะนึกถึงทิศหน้าบ้าน เสมอ ทิศหลังบ้านจะเป็นหนุนและส่งเสริมเจ้าของบ้าน พูดภาษาชาวบ้านก็จะบอกว่า ถ้าหลังแน่นมั่นคงเสียอย่าง ไม่มีล้มง่ายๆครับ เพราะฉะนั้นทิศหลังจึงมีความสำคัญกว่าทิศหน้าบ้าน บ้านทิศเหนือ จะมีจุดโชคลาภอยู่ทางทิศใต้ หรือตำแหน่งหน้าบ้าน นั่นเอง และมีจุดสนับสนุนโชคลาภอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออยู่มุมซ้ายของหลังบ้าน บ้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันทิศนี้ถือว่ารุ่งเรืองที่สุด เพราะอยู่ในยุคที่ 8 มีความรุ่งเรืองไปจนถึงปี 2566 จุดโชคลาภในปัจจุบันจะอยู่ตำแหน่งหลังบ้านหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนทิศสนับสนุนโชคลาภจะอยู่ทางทิศใต้ หรือมุมซ้ายของหน้าบ้าน นั่นเอง บ้านทิศตะวันออก บ้านทิศตะวันออก […]

คิดจะซื้อบ้าน-ที่ดิน ต้องรู้กฎหมาย

คิดจะซื้อบ้าน-ที่ดิน ต้องรู้กฎหมาย

ซื้อบ้าน ซื้อที่ งานนี้ คุณบอกไม่รู้กฎหมาย ไม่ได้แล้ว ขั้นตอนทุกอย่าง ต้องทำอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หากคุณยังสั่นหัว แล้วบอกไม่เป็นไร ให้ทนายจัดการ อย่างนี้ไว้ใจมากไปหรือเปล่า กว่าคุณจะตัดสินใจที่จะมีบ้านสักหลัง ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก ไหนจะเลือกทำเล ไหนจะเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่เขาจะหยิบยื่นให้ แต่สำหรับคนที่มีที่ดินอยู่แล้ว นับว่านี่คือโชค แล้วคุณทราบไหมว่า? เรื่องแรกๆ ที่คุณต้องเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไร? รู้กฎหมายไว้ ไม่ถูกหลอก หลายคนบอกว่า เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของทนาย ปัจจุบันคงไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะถ้าใครไม่รู้กฎหมายมีหวังถูกหลอกเอาได้ง่าย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับบ้านหรือที่ดิน คุณกำลังคิดอยากจะมีบ้านสักหลัง อาจจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ แต่คงไม่ใช่ที่ซุกหัวนอนเหมือนก่อน ปัจจัยแรกที่คุณเลือกอาจเป็นราคาของบ้านที่งบพอดีกับเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า อันดับ ๒ คือ ทำเล แต่สิ่งที่คุณไม่ควรพลาด คือ เรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อบ้านหรือที่ดิน เมื่อคุณตัดสินใจซื้อบ้าน สิ่งที่ตามมาคือ การทำนิติกรรมสัญญา ชนิดที่เรียกว่าเป็นลายลักษณ์อักษร ที่มีการลงนามลายมือชื่อและมีพยาน ถึงจะทำให้นิติกรรมสัญญานั้นมีผลบังคับได้จริงตามกฎหมาย นั่นหมายถึง หากเกิดปัญหาใดๆ เกี่ยวกับบ้านที่คุณซื้อหรือเจ้าของโครงการไม่ทำตามที่สัญญา คุณมีสิทธินำเอกสารสัญญานั้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หรือเอาผิดกับเจ้าของโครงการได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ หลายคนกำลังเล็งหาบ้านมือสอง หรือบ้านที่หลุดดาวน์ แน่นอนคุณต้องเจอกับข้อความ หรือรายละเอียดของสัญญาต่างๆ มาให้คุณเซ็นไม่รู้ว่ากี่ฉบับต่อกี่ฉบับ […]

ดูแลบ้านและสวนในฤดูฝน

ดูแลบ้านและสวนในฤดูฝน

ในฤดูกาลที่ย่างเข้าหน้าฝนแบบนี้ หลายๆ คนมักจะประสบปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าเป็นหลังคารั่วบ้าง น้ำขังบริเวณบ้านบ้าง ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับบ้านและสวนสวยของท่านในช่วงหน้าฝนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็น อย่างยิ่ง วันนี้มีข้อมูลดีๆ จากคอลัมน์ “คนรักบ้าน” นิตยสารชีวิตชีวาของบริษัทธารารมณ์ฯ มาฝาก เริ่มต้นที่ การดูแลรักษา “บ้าน” มีบัญญัติ 6 ข้อจำจงดี ดังนี้ 1.หมั่นสำรวจตามผนังและฝ้าเพดานว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังฝนตก หากพบรอยรั่วซึมจะได้รีบแก้ไขได้ทันท่วงที 2.หมั่น ทำความสะอาดพื้นรอบบ้านหลังฝนตก เพื่อไม่ให้เศษขยะไปทับถมในท่อระบายน้ำและไม่ให้มีตะไครจับ หรือ เป็นคราบดินโคลนเพราะอาจจะทำให้สมาชิกในบ้านลื่นหกล้มได้ 3.หมั่นเก็บกวาดเศษใบไม้รอบบ้านที่ร่วงหล่น โดยเฉพาะในช่วงฝนตก เพื่อไม่ให้อุดตันในท่อระบายน้ำ 4.ทำความสะอาดท่อระบายน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันท่อตันและน้ำขังบริเวณพื้นบ้าน 5.ทำลาย แหล่งน้ำขัง เพื่อป้องกันยุงร้าย ปิดภาชนะที่มีน้ำขังอยู่ อาทิ โอ่ง ถังน้ำ ให้มิดชิด ทำลายภาชนะที่มีน้ำขังที่ไม่ใช้แล้ว และควรเปลี่ยนน้ำในกระถางต้นไม้และแจกันเป็นประจำเพื่อป้องกันยุงวางไข่ 6.เตรียมไฟฉายและเทียน เมื่อฝนตกฟ้าคะนอง มักจะตามมา ด้วยปัญหาไฟฟ้าขัดข้องอยู่บ่อยๆ ดังนั้นท่านควรเตรียมไฟฉาย เทียน ไฟแช็ก เผื่อในยามไฟฟ้าดับ สถานที่เก็บควรเป็นสถานที่สามารถหาหยิบได้ง่าย เช่น ในห้องรับแขกหรือในห้องนอน […]

การทำความสะอาดวอลเปเปอร์

การทำความสะอาดวอลเปเปอร์

ทางเลือกหนึ่งของการเนรมิตผนังบ้านให้สดสวยนอกจากการทาสีแล้วก็เห็นจะเป็นการติดวอลเปเปอร์ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าผนังที่สวยด้วยลวดลายต่าง ๆ ของวอลเปเปอร์จะไม่สามารถเลอะเทอะเปรอะเปื้อนได้ ไม่ต้องตกใจไปเพราะวอลเปเปอร์ก็สามารถทำความสะอาดได้โดยไม่ยุ่งยาก พร้อมที่จะเริ่มงานเบา ๆ นี้หรือยังล่ะ เอ้า! 1-2-3 สิ่งที่ต้องรู้เป็นอย่างแรกเพื่อจะได้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายบนกำแพงสวยก็คือวอลเปเปอร์ที่ใช้นั้นสามารถล้างได้หรือไม่? โดยมากมักจะมีฉลากติดมากับม้วนวอลเปเปอร์อยู่แล้วแต่ถ้าไม่มีก็ลองเลียบ เคียงถามคนขายดูหรือไม่ก็นำมาทดสอบเองแต่ให้เลือกทดสอบเอาบริเวณที่ไม่ค่อยดึงดูดความสนใจของคนนัก กระนั้นก็ตามให้ทดสอบเป็นจุดเล็ก ๆ ล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด ถ้ากระดาษเกิดอาการแพ้ยาด้วยการดูดซับน้ำหรือลวดลายออกอาการเลอะเลือน รู้ไว้ว่าวอลเปเปอร์นั้นล้างไม่ได้ อย่าไปฝืน หาทางทำความสะอาดวิธีอื่นดีกว่า แม้แต่วอลเปเปอร์ที่ประกาศตัวว่าเป็นชนิดที่ล้างได้ยังสมควรผ่านการทดสอบนี้ก่อนเลย ไม่มีอะไรเสียหายนี่ที่จะทดสอบดีกว่าจะมามีผลเสียหายต่อกำแพงสวย ๆ ของคุณวันหลัง การทำความสะอาดวอลเปเปอร์ ต้องเริ่มด้วยความมั่นใจว่าอยู่ในสภาพที่สะอาดปราศจากฝุ่นแล้ว ด้วยการดูดฝุ่นทิ้งซะหรือไม่ก็ใช้ไม้กวาดขนไก่ธรรมดา ๆ นี่แหละปัดให้เลี่ยม จากนั้นก็เลิกพรมที่ปูพื้นออกเสีย หากระดาษหนังสือพิมพ์วันเก่า ๆ ปูทับเพื่อความสะดวกในการทำงาน แต่ถ้าเป็นพรมที่ปูแบบถาวรก็ต้องสละผ้าพลาสติคสักผืน 2 ผืนมาปูไว้กันเลอะ สำหรับชนิดที่ล้างได้จะมีการเคลือบพลาสติคเอาไว้ ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำยาล้างผนังหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ ที่รอยเปื้อน ทาถูทาถูจนรอยเปื้อนลบเลือนไป แต่ถ้ายังไม่ออกอีก ก็ต้องร้อนถึงผงขัดกันแล้ว…โรยแล้วก็ขัดจนกว่าจะออก ส่วนวอลล์เปเปอร์ในแบบล้างไม่ได้นั้นให้หาน้ำยาทำความสะอาดแบบเฉพาะมา ถามร้านที่คุณซื้อวอลเปเปอร์มาก็ได้ ไม่ก็ถามช่างที่ติดให้ดู เลือกน้ำยาที่ใช้สารที่เหมาะสมกับพื้นผิววอลเปเปอร์ของคุณด้วย ค่อย ๆ ลบรอยเปื้อนออกตามทิศทางเดียวกับการติดวอลเปเปอร์ อ้อ! อย่าลืมทดสอบน้ำยาก่อนในบริเวณที่ไม่ค่อยเป็นจุดเด่นนักเช่นหลัง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นงาม ถ้าไม่เกิดริ้วรอยใด ๆ […]

10 วิธีทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีธรรมชาติ

10 วิธีทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีธรรมชาติ

การทำความสะอาดทั่วไป-ผสม สบู่เหลวหรือบอแรกซ์ 1 ช้อนชา ในน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน 1 ลิตร เติมน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไป 1-2 ช้อนชา แล้วนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบไขมันสกปรก-ผสม Washing Soda (hydrated sodium carbonate) ในน้ำอุ่น 1 ลิตร ใช้ได้กับทุกพื้นผิว ยกเว้นอลูมิเนียม 2. วิธีกำจัดกลิ่นเหม็น/กลิ่นอับ  -หาแหล่งกำเนิดกลิ่นเหม็นให้พบ แล้วกำจัดออกไปให้สะอาด และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก -หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาด และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทให้สะดวก -ใช้น้ำส้มสายชูหรือผงฟู 2-4 ช้อนโต๊ะ ใส่จานแล้ววางไว้เพื่อดูดกลิ่น -นำไม้ประดับมาตั้งวางเพื่อดูดกลิ่นและฟองอากาศ -ใช้สมุนไพร หรือเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมมาต้มแล้วตั้งวางไว้ 3. การทำความสะอาดพื้น -เช็ดถูด้วยน้ำธรรมดา -ใช้น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 1 แกลลอน 5 ลิตร ถูทำความสะอาดพื้น 4. การล้างจานชาม /ตะกรันกาน้ำ -ใช้สบู่เหลวธรรมดาทั่วๆ ไปล้างจาน -ใช้ฟองน้ำกับสบู่ก้อน -ผสมน้ำส้มสายชู […]

เลือกซื้อบ้านหน้าฝน เคล็ดลับที่ถูกมองข้าม

เลือกซื้อบ้านหน้าฝน เคล็ดลับที่ถูกมองข้าม

ฤดูฝนใกล้เข้ามาแล้ว แต่แปลกที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยชอบซื้อบ้านในฤดูฝน อาจเป็นเพราะความไม่สะดวกในการเดินทาง ทำให้หน้าฝนกลายเป็นโลว์ซีซันของการขายบ้านกันไปโดยปริยาย แต่ในความเป็นจริงเราต้องอยู่บ้านในฤดูฝนยาวนานถึง 5-6 เดือน ถ้าบ้านหรือโครงการไม่พร้อมรับมือ ฝนนี่แหละจะสร้างปัญหาในการอยู่อาศัยได้มากที่สุด แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบ้านเราพร้อมรับกับฤดูฝนได้เป็นอย่างดี บททดสอบจากฟ้าฝนจึงเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านที่ใครหลายๆคนมองข้ามไป เริ่มจากภายนอกโครงการ เมื่อมีฝนและน้ำท่วมจะทำให้เราได้รับรู้ว่าทำเล ที่เราเลือกจะไปอยู่นั้นสูงต่ำมากน้อยแค่ไหน พอที่จะรับกับสภาพปัญหาน้ำท่วมได้หรือไม่ ฝนตกน้ำท่วมขนาดนี้ดูด้วยตาก็รู้ว่าควรอยู่หรือไม่ควรอยู่อาศัยในทำเลนั้น นอกจากนี้ยังสามารถสำรวจพื้นที่ตั้งโครงการได้ว่า เจ้าของโครงการจัดการกับปัญหาน้ำท่วมมากน้อยขนาดไหน ตั้งแต่เรื่องการถมดินเพื่อพัฒนาโครงการสูงพอหรือไม่ ไปจนถึงการวางระบบระบายน้ำในโครงการดีพอ กับการรับมือเมื่อน้ำท่วมหรือเปล่า สิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้จากฝนที่ตกลงมาต่อคุณภาพของการก่อสร้างบ้านว่ามีคุณภาพดีพอหรือไม่ ไล่กันตั้งแต่หลังคายันฝาบ้าน รวมไปถึงระบบสุขาภิบาลในบ้าน ในช่วงเวลาที่มีฝนตกลงมา หลายโครงการประสบปัญหารั่วซึมให้เห็นกันจะจะ แถมการระบายน้ำภายในบ้านยังไม่ดีพอ รวมไปถึงการเทพื้นที่ไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้เห็นน้ำท่วมขังกันบ่อยๆ ช่วงเวลาที่เหมาะจะสังเกตพฤติกรรมของน้ำฝนก็คือ เวลาที่ฝนตกหนักๆซึ่งจะมีลมพายุพัดแรงทุกทิศทุกทาง ควรจะสังเกตว่าน้ำฝนที่หลังคาไหลไปทิศทางใดบ้าง มีส่วนใดของบ้านเกิดรอยด่างเพราะน้ำฝนหรือไม่ บริเวณที่ควรสำรวจดูร่องรอยน้ำฝน ได้แก่ ระหว่างวงกบและผนังปูนจะมีขอบยางกันน้ำรั่วเข้ามาเวลาฝนตกแรงๆ โดยปกติน้ำจะไม่รั่วเข้ามาภายในรอยต่อที่ผนังปูนฉาบกับวงกบประตู 2. หน้าต่าง เมื่อวัสดุต่างชนิดกันมาเชื่อมต่อกัน จึงไม่สามารถทำให้แนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกันได้ วัสดุจะมีการยืดหดตัวอยู่เสมอตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นเมื่อฝนตกแรงๆ อาจทำให้ฝนเซาะเข้าตามร่องรอยต่อระหว่างวงกบและผนัง อีกทั้งเกิดแรงดูดของอากาศจากภายในห้องในช่วงฝนตก ทำให้น้ำฝนวิ่งเข้าสู่ช่องว่างของรอยต่อได้ 3. พื้นเฉลียงและระเบียง หลังฝนตกให้สังเกตดูว่าบริเวณพื้นเฉลียง และระเบียงมีน้ำเจิ่งนองหรือน้ำฝนขังเป็นแอ่งหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าพื้นผิวมีการระบายน้ำไม่ดีพอ     สาเหตุและการแก้ไขรอยรั่วซึมน้ำฝน เกิดจากน้ำฝนไหลย้อนเข้าตามรอยต่อของกระเบื้องมุงหลังคา เนื่องจากกระเบื้องมุงหลังคามีรอยแตกร้าว เพราะมีเศษกิ่งไม้หรือวัสดุปลิวมาถูกหลังคา […]

เรื่องที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อบ้าน 6 ประการ

เรื่องที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อบ้าน 6 ประการ

  วงเงินการปล่อยกู้จากสถาบันการเงิน ทั้งนี้เพื่อจะได้ทราบระดับราคาบ้านที่จะสามารถซื้อได้โดยผู้ซื้อสามารถตรวจสอบได้ที่ฝ่ายให้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ หรือตามเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย หรือตามเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย หรือตามเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน ซึ่งโดยปกติสถาบันการเงินจะปล่อยกู้ประมาณ 25-30 เท่าของอัตราเงินเดือนผู้กู้ ในกรณีที่ผู้ซื้อมีผู้กู้ร่วมด้วยอัตราส่วนเพิ่มของวงเงินกู้ ก็จะเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเดือนของผู้กู้ร่วม ทั้งนี้สถาบันการเงินอาจจะพิจารณาปล่อยกู้เกินกว่าวงเงินขั้นต่ำที่กำหนด โดยพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น อาชีพ ความมั่นคง ความก้าวหน้า ความสามารถในการผ่อนชำระ อาชีพเสริมที่รู้แหล่งที่มาของรายได้ เป็นต้น ข้อมูลโครงการ โดยแบ่งแยกตามทำเล ระดับราคา และประเภทที่อยู่อาศัยที่สนใจ จากสื่อสิ่งพิมพ์หรือเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย ทั้งนี้เพื่อประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูโครงการจริง ข้อมูลทางราชการ เช่น แนวเวนคืน โครงข่ายสาธารณูปโภค-สาธารณูปการที่มีอยู่ และจะเกิดขึ้นในอนาคตข้อมูลบางอย่างจะมีประโยชน์ต่อการอยู่อาศัย เช่น การก่อสร้างทางด่วน การตัดถนน เป็นต้น ผังเมืองรวม  ควรหลีกเลี่ยงโครงการที่อยู่ในเขตผังเมืองประเภทพื้นที่อุตสาหกรรม หรือพาณิชยกรรม หรือที่พักอาศัยหนาแน่นมาก เพราะพื้นที่เหล่านี้จะเป็นเขตที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น และมีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่ทำให้เกิดมลภาวะ ปัญหาการจราจร ฯลฯ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น  เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ฯลฯ เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้บริการ จึงควรตรวจสอบระยะเวลา และความสะดวกในการเดินทาง […]

ไขปัญหา..ต่อเติมบ้านแล้วมีรอยแยก-รอยร้าว

         เมื่อต่อเติมบ้านมักเกิดปัญหามีรอยแยก-รอยร้าว อย่างกรณีบ้านที่ต่อเติมด้านข้างและหลังบ้านไว้ ปัจจุบันมีรอยร้าวที่หลังบ้านและด้านข้าง ฝาบ้านข้างหน้าบ้าน โดยได้มีการซ่อมแซมแล้วปรากฏว่ายังมีรอยร้าวเกิดขึ้นที่เดิมอีก จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ปัญหาการต่อเติมบ้าน แล้วทรุดตัวทำให้ผนังแตก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และเกือบจะเรียกว่าเป็นธรรมชาติ เพราะเวลาเราต่อเติมบ้าน เรามักจะใช้เสาเข็มสั้น (ยาว 3-6 มตร) ซึ่งใช้แรงคนตอก แต่ความยาวเสาเข็มบ้านเดิมยาวประมาณ 20 เมตร เมื่อเสาเข็มตั้งอยู่บนความลึกต่างกันมากๆ เวลาระดับน้ำใต้ดินขึ้น หรือลงตามธรรมชาติ หรือเกิดจากเราสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ทำให้พื้นดินยุบตัวลงปลายเสาเข็มซึ่งตั้งอยู่บนดินนั้น ก็ยุบตัวลงด้วย โดยทั่วไป ปลายเสาเข็มที่ตั้งอยู่ที่ระดับลึกกว่า จะยุบตัวน้อยกว่าเสาเข็มที่ตั้งอยู่ตื้นกว่า เวลาระดับน้ำใต้ดินลดลง ดินก็จะยุบตัวซึ่งน้อยมากๆ ดังนั้น เสาเข็มสั้น จะทรุดตัวมากกว่าอาคารที่ตั้งบนเสาเข็มยาว ยิ่งนานหลายๆ ปี ความแตกต่างของกรทรุดตัวมากเข้าโครงสร้างก็จะแตกหักถ้าหากจะต่อเติมด้านข้างของอาคารเก่าเป็น 2 หรือ 3 ชั้น ควรพยายามใช้เสาเข็มเจาะ ลึกให้ใกล้เคียงกับเสาเข็มของอาคารเดิม จะทำให้อัตราการทรุดตัวแตกต่างกันน้อย แต่ถ้า ต่อเติมแค่ชั้นล่างชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น แต่ชั้นบนเป็นระเบียง และต้องการประหยัดจะใช้เสาเข็มสั้นล่ะก็ ให้เข้าใจเลยว่า อาคารเก่ากับส่วนที่ต่อเติมจะทรุดตัวไม่เท่ากันและผนังส่วนต่อเติมที่ไปชนกับผนังอาคารเดิมต้องแยกแน่นอน น้ำฝนอาจไหลเข้ามาได้ เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้ เราก็อาจออกแบบให้บริเวณนั้น ยอมรับการแตกหรือมีน้ำฝนเข้ามาได้บ้าง เช่น ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ม่ปูเป็นพื้นไม้ หรือไม่เช่นนั้น […]