Compare Listings

“ฮวงจุ้ย” บ้านรับปีใหม่ 2016 ที่เขาบอกว่าเป็น “ปีลิงไฟ”

“ฮวงจุ้ย” บ้านรับปีใหม่ 2016 ที่เขาบอกว่าเป็น “ปีลิงไฟ”

ปี 2016 ซึ่งเป็นปีวอก หรือปีลิง ตามความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยแบบคนจีน เชื่อกันว่าปีหน้าคือปีลิงไฟ ดังนั้นในด้านของฮวงจุ้ยบ้านก็มีคำแนะนำและสิ่งที่คุณอาจจะต้องให้ความสำคัญอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ มาดูกันว่า คุณควรเตรียมเรื่องอะไรบ้างสำหรับการจัดฮวงจุ้ยบ้านต้อนรับปีลิงไฟ 1.สร้างพลังให้ห้องรับแขก จริงๆ หลายคนคงบอกว่าไม่ว่าจะเป็นห้องไหนๆ ในบ้านหรือออฟฟิศของคุณก็มีความสำคัญเท่ากันหมด แต่สำหรับปีหน้า ซึ่งเป็นปีลิงไฟ ห้องรับแขกซึ่งเป็นห้องที่มีองค์ประกอบของธาตุไฟนั้นกลับเป็นห้องที่คุณควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นห้องแห่งพลังหยาง ดังนั้นคุณอาจต้องเริ่มต้นจากการยืนอยู่บริเวณทางเข้าของห้องแล้วสังเกตว่าพื้นที่ไหนของห้องโดดเด่นมากที่สุด จากนั้นก็ปรับห้องรับแขกของคุณให้เป็นไปอย่างที่คุณต้องการ 2.สิ่งแรกที่เห็นต้องสะอาด เรียบร้อย อะไรคือสิ่งแรกที่คุณเห็นเมื่อเข้าบ้าน ดังนั้นทุกจุดที่สายตาคุณกวาดตาไปพบควรจะต้องสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ควรรก คุณคงไม่อยากเห็นกองกระดาษหรือเศษขยะต่างๆ จัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบ เพราะปีนี้จะเป็นปีที่คุณจะมีกิจกรรมมากมาย 3.ทาสีห้องใดห้องหนึ่งในบ้าน สภาพแวดล้อมมีผลต่อเรื่องของพลัง หากห้องหรือบ้านของคุณมีแต่สีขาวหรือสีงาช้างมันจะหมายถึงธาตุโลหะมากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นภายในบ้านได้ ดังนั้นคุณควรทาสีอื่นในห้องใดห้องหนึ่งของบ้านหรือออฟฟิศ ห้องที่คุณเลือกอาจจะเป็นห้องเล็กๆ เช่นห้องน้ำ โดยอาจเลือกใช้สีฟ้า หรือถ้าจะทาสีห้องนอนอาจจะเลือกเป็นสีเขียวอ่อน แต่ทั้งสีฟ้าและสีเขียวนั้นจะต้องไม่สว่างมากจนเกินไป แต่ถ้าจะทาสีห้องครัวก็ควรเลือกสีเหลืองหรือสีทองในห้องรับประทาอาหาร 4.ต้นไม้และดอกไม้ การเพิ่มดอกไม้ต้นไม้เข้าไปในบ้านถือเป็นการเพิ่มเพื่อต้อนรับความโชคดี นอกจากนี้ต้นไม้ ดอกไม้บางพันธุ์ยังส่งเสริมเรื่องความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ หรือแม้แต่ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมก็ยังช่วยทำให้บ้านคุณสดชื่น นอกจากนี้พืชยังช่วยเพิ่มออกซิเจนทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ อ่านแล้วจะลองทำตามก็ได้นะคะ เพราะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลค่ะ เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://susanlevitt.com แหล่งที่มา : http://home.sanook.com/7785/ ภาพจาก www.istockphoto.com

5 เทรนด์แต่งบ้านสุดเอาท์ประจำปี 2016

5 เทรนด์แต่งบ้านสุดเอาท์ประจำปี 2016

สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะตกแต่งบ้านในปี 2016 ที่จะถึงนี้ รู้หรือไม่ว่าเทรนด์แต่งบ้านบางเทรนด์กำลังจะตกยุคแล้วนะ ซึ่งหากใครยังคงนำมาใช้ในการตกแต่งบ้านของตัวเองอยู่ล่ะก็ บอกเลยว่าใครๆ ก็จะมองว่าคุณเชยแสนเชยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว เรามาอัพเดตกันหน่อยดีกว่า ว่าปี 2016 นี้ เทรนด์แต่งบ้านแบบไหนที่กำลังจะตกไปบ้าง ขอบคุณภาพประกอบจาก http://blog.livedoor.jp/ 1.ของตกแต่งบ้านจากกระจกใสๆ หลายคนนิยมที่จะตกแต่งบ้านด้วยของประดับตกแต่งที่ทำจากกระจก ทั้งนี้ก็เพราะสีใสๆ ของกระจก จะทำให้บ้านดูกว้างขวางมากขึ้น และดูโล่งโปร่ง มีบรรยากาศที่เย็นสบายมากขึ้นนั่นเอง แต่ในปีหน้านี้ ของตกแต่งบ้านแบบกระจกจะถูกจัดชิดซ้ายไปเลย ใครที่อยากอินเทรนด์ก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ของตกแต่งแบบเมทัลลิกแทนนะจ๊ะ และด้วยความแวววาวของเมทัลลิก ก็จะช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับบ้านของคุณได้ไม่แพ้กระจกกันเลย ขอบคุณภาพประกอบจาก http://glazedcabinets.biz/ 2.เติมสีสันให้กับท็อปเคาน์เตอร์ครัวด้วยกระเบื้อง ท็อปเคาน์เตอร์ครัวอาจดูธรรมดาเกินไป คนส่วนใหญ่จึงนิยมแต่งแต้มสีสันให้กับท็อปเคาน์เตอร์ครัวด้วยกระเบื้อง ซึ่งก็ทำให้ห้องครัวดูน่าใช้ขึ้นมากทีเดียว แต่ในปี 2016 นี้ วิธีการนั้นจะไม่เวิร์คอีกต่อไป เพราะเน้นที่ความเป็นธรรมชาติมากกว่า ด้วยการตกแต่งท็อปเคาน์เตอร์ครัวด้วยวัสดุจากไม้แทนหรือจะเป็นวัสดุอื่นๆจากธรรมชาติก็ได้ ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.gallerieb.com/ 3.จัดมุมทำงานไว้ในครัว การจัดมุมทำงานไว้ในครัวก็เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังตกยุคเหมือนกันนะ ถึงแม้จะเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน แต่หากมองดีๆ จะพบว่ามันก็มีจุดบอดอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่ไม่เข้ากันเอาเสียเลย หรือจะเป็นการทำให้ห้องครัวดูคับแคบมากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว ปีหน้านี้เอาใหม่ค่ะ เลือกจัดโต๊ะทำงานไว้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอนหรือห้องทำงานส่วนตัวไปเลยดีกว่า เหมาะกว่าเยอะ ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.lidbeckbrent.com/ 4.หน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดาน การติดตั้งหน้าต่างๆ สูงๆ อาจดูดีสำหรับหลายๆ คน แต่หากมองกลับกัน จะพบว่าหน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานนั้น […]

แนะนำ “ต้นไม้” แห่งความโชคดีประจำปีใหม่

แนะนำ “ต้นไม้” แห่งความโชคดีประจำปีใหม่

อีกเพียงไม่กี่วันเราก็จะก้าวเข้าสู่ “ปีใหม่” หลายคนคาดหวังถึงความสุข ความฝัน ความสนุกสนาน และโชคดีต่างๆ ที่จะเข้ามา แล้วพวกคุณรู้ไหมว่ามีต้นไม้หลายๆ ชนิดที่นำโชค ดึงดูดสิ่งดีๆ มาให้เจ้าของบ้าน มาดูกันค่ะว่า “ต้นไม้” อะไรบ้างที่เราควรจะปลูกเพื่อนำความโชคดีในปีใหม่ๆ มาให้เรา 1.ต้นไผ่ ใครต่างก็รู้ว่า “ไผ่” เป็นพันธุ์ไม้แห่งความโชคดี นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ไม้ตระกูลลิลลี่อีกที่เป็นพันธุ์ไม้แห่งความมีโชค สำหรับไผ่นั้นเชื่อกันว่าจะนำความโชคดีในเรื่องของสุขภาพ ความมั่งคั่ง ความสุขและความรัก ยิ่งกิ่งก้านของไผ่เติบโตแตกแยกเป็นสาขาไปมากเท่าไรยิ่งถือว่าเป็นเรื่องดี 2.ต้นศุภโชค เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมนำมาปลูกเพื่อเพิ่มโชคลาภให้กับบ้าน เพราะมันจะนำพลังทางดีเข้าสู่ตัวบ้าน รวมทั้งยังทำให้เกิดการไหลเวียนของพลังที่ดีอีกด้วย ดังนั้นต้นศุภโชคจึงได้รับความนิยมให้เป็นของขวัญสำหรับวันปีใหม่อีกชิ้นหนึ่ง แต่ต้นศุภโชคต้องมีใบเป็นแบบ 3 หรือ 5 แฉกถึงจะดี แต่ต้องระวังไม่ให้เป็นแบบ 4 แฉกเพราะมันหมายถึงความโชคร้าย 3.โคลเวอร์ เป็นพันธุ์ไม้อีกต้นหนึ่งที่ได้รับความนิยมและเชื่อว่าจะส่งเสริมเรื่องโชคลาภ ช่วยปัดเป่าความโชคร้าย ใบโคลเวอร์มี 4 แฉกซึ่งมีความหมายถึงความหวัง ความเชื่อความศรัทธา ความรัก และโชค 4.ต้นหยก เป็นต้นไม้ที่สื่อความหมายถึงเรื่องทางการเงิน เป็นสัญลักษณ์ของการเจริญเติบโต การต่ออายุและความมั่งคั่ง รวมถึงความเจริญรุ่งเรือง ต้นหยกถือเป็นต้นไม้แบบดั้งเดิมที่คนนิยมมอบให้เหล่านักธุรกิจ ซึ่งตำแหน่งที่ดีในการตั้งต้นหยกไว้ในบ้านหรือบริษัทคือตรงบริเวณทางเข้าหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมันจะนำความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://www.roanoke.com ภาพจาก www.istockphoto.com แหล่งที่มา :  http://home.sanook.com/7757/

15 ไอเดียตกแต่งสนามหญ้าสำหรับปาร์ตี้ ทั้งประหยัด และง่าย

15 ไอเดียตกแต่งสนามหญ้าสำหรับปาร์ตี้ ทั้งประหยัด และง่าย

ใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว หลายบ้านเริ่มวางแผนถึงการจัดงานเลี้ยง บางคนก็เลือกจัดในบ้าน แต่สำหรับบ้านไหนที่คิดไว้แล้วว่าจะใช้สนามหญ้าเป็นสถานที่จัดปาร์ตี้ ลองมาดูวิธีตกแต่ง ปรับเปลี่ยนสนามหญ้าหน้าตาเดิมๆ ให้น่าสนใจ มีบรรยากาศของความสนุกสนานกันดูไหมคะ ที่สำคัญทั้งง่าย และประหยัดค่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลย 1.แทนที่หลอดไฟในแชนเดอเลียช่อเดิม ด้วยหลอดไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ จากนั้นนำแชนเดอเลียเหล่านั้นไปแขวนประดับตามกิ่งไม้ในสวน ได้ทั้งสวยและประหยัด 2.จับเก้าอี้เก่ามาทำเป็นชิงช้าแสนเก๋ ทั้งสวยและแปลกตา 3.ใช้แพมเพิร์สรองก้นกระถางต้นไม้ เพื่อเวลารดน้ำ แพมเพิร์สจะได้ดูดซึมน้ำไว้สำหรับต้นไม้ได้อย่างยาวนาน 4.วางหรือห้อยตะแกรงที่ด้านในใส่เศษไหมพรมไว้ตามกิ่งต้นไม้ในสวน เพื่อให้นกทำเป็นรัง 5.ทำเตียงน้ำเอาท์ดอร์ขนาดใหญ่ไว้กลางสนามหญ้า สำหรับเป็นที่เล่นของพวกเด็กๆ 6.ใช้สร้อยคอหรือกำไลเรืองแสงมาประดับเป็นวงแหวนส่องแสงสว่างในตอนกลางคืน 7.จำลองลานโบว์ลิ่ง โดยนำขวดบรรจุน้ำสีสะท้อนแสง ตั้งเรียงเป็นพิน กิจกรรมสนุกอีกหนึ่งอย่างยามราตรี 8.ตกแต่งโต๊ะจัดปาร์ตี้ด้วยการนำขวดน้ำพลาสติกมาผูกห้อยเรียงเป็นรั้วยาว ด้านในขวดประดับดอกไม้หลากสี 9.พ่นสีสเปรย์บนเก้าอี้พับตัวเดิม ที่อาจจะสีไม่สวย ให้กลายเป็นเก้าอี้สีหวานๆ เหมาะสำหรับงานสังสรรค์ 10.สร้างเสียงไพเราะในงานด้วยกระดิ่งลม ที่ทำจากลูกกุญแจเก่าพ่นสีสด ห้อยเรียงราย เมื่อยามลมพัดเสียงกระทบกันจะก้องกังวาน 11.นำขวดไวน์ที่ไม่ใช้แล้วมาจุดไฟสำหรับไล่ยุงเมื่อมีปาร์ตี้ 12.ปลูกต้นตะไคร้ไว้ภายในสนามหญ้า เป็นวิธีการไล่ยุงจากธรรมชาติที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง 13.พ่นสีกระถางในสวนด้วยสีเรืองแสง เพื่อความปลอดภัยในยามค่ำคืนและความสวยงาม 14.สำหรับบ้านไหนที่สวนในบ้านมีพื้นที่แคบ แนะนำให้ใส่กระจกที่บริเวณริมรั้ว หรือกำแพงบ้านเพื่อให้สวนมีขนาดกว้างขึ้น 15.ใช้ไฟเส้นตกแต่งรอบๆ สวน เพื่อสีสันของงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน เห็น 15 ไอเดียง่าย ประหยัดแบบนี้แล้ว น่าลองดูใช่ไหมคะ ว่าแล้วก็จัดไปเลยค่ะ ขัอมูลและภาพจาก www.pinterest.com […]

30 เคล็ดลับขั้นเทพ !! มุกใหม่ทำความสะอาดที่ได้ผลแจ่ม ๆ

30 เคล็ดลับขั้นเทพ !! มุกใหม่ทำความสะอาดที่ได้ผลแจ่ม ๆ

มุกใหม่ ๆ ในการทำความสะอาด ที่เปลี่ยนจากความแหวกแนวให้กลายเป็นเคล็ดลับระดับเซียน ที่ทำแล้วเห็นผลซะด้วย ว้าว ว้าว ! เราอาจจะเคยละเลยการทำความสะอาดของบางสิ่งบางอย่างในบ้านไป เพียงเพราะคิดว่ามันไม่น่าจะสกปรกเท่าไร เลยไม่อยากเสียเวลามานั่งใส่ใจ แต่หารู้ไม่ว่าวิธีการธรรมดาทั่ว ๆ ไปที่ทำกันอยู่นั้นอาจจะไม่ให้ผลดีเท่าที่ควร วันนี้เราเลยนำเอาวิธีการทำความสะอาดแบบทางลัด จากเว็บไซต์ emlii.com ที่ดูไม่น่าจะใช้ได้ แต่กลับได้ผลดีเยี่ยมมาบอกต่อ จะมีอะไรบ้าง และเด็ดดวงแค่ไหน ก็ลองไปดูกันเลย 1. ใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดซอกซอนตามร่องฝุ่น จากบ้านที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ กลับต้องมาหายใจสะดุดสูดออกซิเจนไม่เต็มปอด อาจจะเป็นเพราะฝุ่นหนาเตอะที่เกาะอยู่ตามร่องของช่องระบายอากาศในบ้านนั่นเอง ซึ่งถ้าหากคุณถึงกับยอมลงทุนยก เครื่องดูดฝุ่นมาดูดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี แนะนำให้ใช้ผ้าผืนเล็ก ๆ หุ้มที่ปลายมีด หรือตะเกียบ แล้วแยงเข้าไปตามร่อง เช็ดทุกซอกทุกมุมให้เกลี้ยงเกลา เท่านี้อากาศดี ๆ ก็จะไหลผ่านเข้า-ออกบ้านได้อย่างสบาย 2. ขัดอ่างล้างจานให้เนียบนิ้งด้วยแปรงสีฟัน บริเวณอ่างล้างจาน เป็นแหล่งที่มีเชื้อแบคทีเรียจากเศษอาหารและแหล่งน้ำขังสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าไม่อยากให้อ่างล้างจานกลายเป็นจุดที่สกปรกที่สุด ให้ใช้น้ำมันพืชผสมกับเบกกิ้งโซดา ขัดทุกซอกในอ่างล้างจานด้วยแปรงสีฟันแล้วล้างออก เพียงเท่านี้ปริมาณเชื้อแบคทีเรียก็จะลดลงอย่างง่ายดาย 3. เขียงสะอาดล้ำลึกด้วยน้ำยาขัดจากห้องครัว ถ้าจะล้างเขียงพลาสติกแนะนำให้แช่ทิ้งไว้ในน้ำยาล้างจานผสมน้ำก่อน 1 ชั่วโมง ส่วนเขียงไม้ให้นำมะนาวมาผ่าครึ่ง แล้วทาเกลือ ใช้ถูบนหน้าเขียง ระหว่างนี้กรดในน้ำมะนาวกับเม็ดเกลือ ก็จะช่วยกัดเศษอาหารให้หลุดออกอย่างง่ายดายเมื่อนำไปทำความสะอาด […]

6 สุดยอดเทคนิคการเลือกทำเลที่ดิน

6 สุดยอดเทคนิคการเลือกทำเลที่ดิน

สำหรับ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นประเภทที่อยู่อาศัยหรือว่าไม่ใช่ประเภทที่อยู่อาศัย ที่ดิน ถือเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญที่สุด จากที่หลายๆ คนทราบกันอยู่ว่า และ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้สำเร็จนั้น คือ “Location Location และ Location” ถ้าทำเลดีโอกาสในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น (แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าจะสำเร็จ) แต่ถ้าทำเลไม่ดีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะลดน้อยลง แล้วทำเลที่ดีเป็นอย่างไร ? วันนี้เรามาเรียนรู้ เทคนิคการเลือกทำเล ดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง เพื่อเอาไว้ตัดสินใจในการเลือกทำเลที่ดินสักแปลงหนึ่ง 1. การเข้าถึงที่ดิน เป็นสิ่งแรกที่สำคัญมากที่สุด ที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกทำเลที่ตั้ง การเข้าถึงที่ดินและการมองเห็นที่ดินถือเป็นปัจจัยตัวแรกที่สำคัญ จะเป็นตัวกำหนดว่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณจะ อยู่ หรือ ดับ การเข้าถึงที่ดินมีส่วนคล้ายคลึงกับเรื่อง ฮวงจุ้ย เพราะฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการดูทำเลที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็น ที่ดินของเราอยู่ในทิศทาง ลม แดด รวมถึงองศาอย่างไรจึงจะเหมาะสม โดย ขั้นแรก ต้องดูเรื่องของการเข้าถึงที่ดิน อาจจะมองในมุมการเดินทางดูว่า ถ้าหากเราเลือกที่ดินผืนนี้จะมีทางเข้าออกหรือไม่ ที่ดินตาบอดหรือเปล่า มีทางเข้าออกมีกี่ทาง เมื่อดูทางเข้าออกเสร็จแล้ว ขั้นสอง ที่ดินของเราสามารถเข้าถึงด้วยรถยนต์ รถไฟฟ้า หรือว่าขนส่งมวลชนรูปแบบต่างๆ ได้หรือไม่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ด้วย ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จำเป็น […]

7 วิธีเลือก Agent ขายบ้านมืออาชีพ

7 วิธีเลือก Agent ขายบ้านมืออาชีพ

1.มีทักษะการสือสารดีเยี่ยม คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ถ้าคุณได้ตกลงทำสัญญาจ้าง Agent ขายบ้านที่ไม่มีทักษะการสื่อสารที่ดี ต้องยอมรับว่า สำหรับอสังหาฯ นอกจากเรื่องทำเลและสภาพบ้านแล้ว ก็มีเรื่องการขายนี้แหละที่ดูอ่อนไหวต่อสภาพตลาดอสังหาฯ ดังนั้น ทักษะการสือสาร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินการขายระหว่างลูกค้าและผู้ที่สนใจซื้อขายบ้านเป็นไปอย่างง่ายขึ้น 2.มีทักษะเชิงรุกชนิด proactive Agent ขายบ้านที่มีลักษณะคอยติดตามเสนอทรัพย์แก่ลูกค้า เช่น matching ทรัพย์ทีมีลักษณะตรงตามลูกค้าต้องการ หรือ การมองหาช่องทางหาลูกค้ารายใหม่ พร้อมทั้งไม่ลืมติดต่อรักษาสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการทำงานเชิงรุก ความกระตือรือร้นชนิด proactive ของ Agent ขายบ้านที่มีความเป็นมืออาชีพ 3.มีทักษะการรับฟัง การสือสารที่ดี นอกจากจะต้องช่างเจรจาแล้ว ควรมีทักษะการฟังที่ดีด้วยเช่นกัน คงไม่ดีแน่ หากมี Agent เสนอขายบ้านกับคุณ โดยที่เอาแต่พูดนำเสนอ โดยไม่ได้ฟังความต้องการของคุณเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทรัพย์นั้นจะเป็นทรัพย์ที่ดีที่สุดในทำเลนั้น แต่หากเจอการขายแบบนี้ ผู้ที่สนใจจะกลายเป็นรำคาญไปเสียมากกว่า ดังนั้น ทักษะการฟัง แสดงให้เห็นว่า Agent ขายบ้านคนนั้นดูเป็นมืออาชีพหรือไม่ สนใจคอยรับฟังปัญหาหรือความต้องการต่างของลูกค้ารึเปล่า 4.มีทักษะจูงใจผู้ซื้อผู้ขาย พื้นฐานงานขายเป็นงานที่รับแรงกดดันสูง ต้องแบกรับความคาดหวังทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ทักษะจูงใจลูกค้าจึงเป็นคุณสมบัติอันดับต้นที่มืออาชีพควรมี เพื่อการันตีว่าจะสามารถนำเสนอทรัพย์แก่ผู้ที่สนใจได้อย่างผ่อนคลาย มีความเป็นกันเอง ผู้ที่สนใจยอมเปิดใจรับฟังการนำเสนอนั้นอย่างรื่นไหลฟังเพลินตามไปด้วย 5.มีทักษะประยุกต์ตอบโจทย์ […]

การเตรียมตัวประมูลบ้านจากกรมบังคับคดี

การเตรียมตัวประมูลบ้านจากกรมบังคับคดี

คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าบ้านที่ได้จากการประมูลของกรมบังคับคดีนั้น ราคาถูกกว่าท้องตลาดเกือบครึ่ง และเมื่อเอามาปรับปรุงใหม่บางรายทำกำไรได้อย่างงาม ซึ่งหากไปดูขั้นตอนจากกรมบังคับคดีก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก สนใจทรัพย์ เตรียมหลักฐานและเอกสารไปในวันที่จัดการประมูล หากให้ราคาสูงสุดก็จบ ได้บ้านราคาถูกมาครอบครองสมใจ ง่ายดายและสวยงามจริงๆ? บ้านที่ถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการประมูลโดยกรมบังคับคดี จะเป็นบ้านที่ถูกบังคับให้ขายเพื่อใช้หนี้ จึงมีลักษณะเป็นบ้านที่ขายตามสภาพจริง ไม่มีการซ่อมแซมหรือต่อรองใดๆ อีก และการซื้อขายทอดตลาดนั้นกฎหมายไม่ให้ผู้ซื้อเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ขายหากทรัพย์นั้นชำรุดบกพร่อง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 473 ดังนั้น การประมูล ทรัพย์จากกรมบังคับคดี ไม่ใช่เรื่องง่าย ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับผู้ประเมินเริ่มจาก  1. การมองหาทรัพย์ที่สนใจ ตรวจสอบราคา ก่อนการประมูล ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน 2. ตรวจสอบเจ้าของ คือควรตรวจสอบด้วยว่าผู้เป็นเจ้าของเดิมว่ามีแนวโน้มในการคัดค้านการขายหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมาย ลูกหนี้สามารถค้านราคาได้หนึ่งครั้ง ก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เสนอราคาสูงสุด ลูกหนี้ คัดค้านว่าราคาดังกล่าวมีจำนวนต่ำเกินควร กรณีนี้ลูกหนี้ต้องหาผู้ที่จะซื้อให้มีราคาสูงกว่านั้นมาสู้ราคา ถ้าหาไม่ได้เจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เสนอราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดครั้งเดิมนั้นไป ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 309 ทวิ 3. ต้องเตรียมเงินสด ในการขอเข้าร่วมการประมูลสินทรัพย์ ต้อง เตรียมเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายกองจำหน่ายทรัพย์สินกรมบังคับคดีเพื่อใช้เป็นหลักประกันการเข้าสู้ราคา ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาทรัพย์สินที่กรมบังคับคดีเขาตีราคา และจำนวนเงินประกันที่ต้องวางก่อนประมูลทรัพย์ ก็อยู่ที่ 50,000 บาทกรณีทรัพย์ที่ประมูลมีราคาต่ำกว่า 20 ล้านบาท และวางเงินประกัน 1 […]

เปรียบเทียบการออกแบบทาวน์เฮ้าส์มือหนึ่งและทาวน์เฮ้าส์มือสอง

เปรียบเทียบการออกแบบทาวน์เฮ้าส์มือหนึ่งและทาวน์เฮ้าส์มือสอง

จากการสำรวจพบว่า การออกแบบทาวน์เฮ้าส์มือสองในสมัยก่อนกับมือหนึ่งในปัจจุบันมีลักษณะการออกแบบสัดส่วนของห้อง (Layout) ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยทาวเฮ้าส์มือหนึ่งในบัจจุบัน ถ้าเป็น 2 ชั้น จะออกแบบเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ส่วน 3 ชั้น ออกแบบเป็น 3 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนที่มีตู้เสื้อผ้าในตัว 2 ห้องนอน และห้องนอนเล็กธรรมดา 1 ห้องนอน ส่วนชั้น 2 จะมีห้องที่จัดเป็นโซนพักผ่อนไว้ดูทีวี หรือทำงานก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล แต่ถ้าเป็นทาวเฮ้าส์มือสองก็มีลักษณะใกล้เคียงกับทาวเฮ้าส์มือหนึ่ง แต่ลักษณะการออกแบบอาจจะไม่ทันสมัยเท่ากับทาวเฮ้าส์มือหนึ่งแต่ก็ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ซื้อได้ดีพอๆกัน โดยทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ส่วนทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เช่นเดียวกันกับทาวน์เฮ้าส์มือหนึ่ง บทความโดย : TerraBKK.com ร่วมนำเสนอโดย : PrThai.com, PAPANG.COM […]

13 หนทางฝ่าวิกฤติ เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว

13 หนทางฝ่าวิกฤติ เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว

ความผันผวนของเศรษฐกิจบ้านเราที่ดีๆ ร้ายๆ สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปอยู่ตลอดเวลานับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนจำนวนมากจำต้องเผชิญปัญหา “กระแสรายได้มีไม่พอที่จะผ่อนชำระค่างวดบ้าน” ไปตามๆ กัน ซึ่งปัญหาลักษณะนี้หากปล่อยปละละเลย หรือแก้ไขอย่างไม่ถูกต้องแล้ว ก็จะมีผลทำให้ลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่โตรุนแรงขึ้นได้ อาจเลวร้ายจนถึงขั้นต้องถูกฟ้องร้องและสูญเสียบ้านอยู่อาศัยไปในที่สุดและยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาอื่นๆ ในครอบครัวตามมาอีกนานัปการ ที่จริงแล้วการผ่อนบ้านไม่ไหวเป็นปัญหาระยะสั้นชั่วครั้งชั่วคราว ที่ไม่ใช่ปัญหาเลวร้ายแต่ประการใด เป็นเพียงปัญหาปกติที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ เพียงทว่าผู้โชคร้ายที่ตกอยู่ในภาวการณ์ดังกล่าวจะต้องรีบรักษาและเยียวยาให้ได้อย่างทันท่วงทีเท่านั้น ก็จะสามารถผ่อนหนักเป็นเบา และหลุดรอดจากห้วงเวลาที่เกิดวิกฤติการณ์ได้ เป็นที่น่าเสียดายว่าการถูกยึดบ้านหรือถูกฟ้องล้มละลายของคนจำนวนมากล้วนเกิดขึ้นจากสาเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นสำคัญ จากการไม่ได้ดูแลจัดการปัญหาอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก ทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตกลายเป็นวิกฤติการณ์จนยากเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ในที่สุด ปกติเวลาคนทั่วไปเผชิญกับปัญหาผ่อนค่างวดบ้านไม่ได้ สิ่งที่นิยมกระทำกันก็คือหยุดส่งค่างวดไปเฉย ๆ พร้อมๆ กับการหนีหายไม่ติดต่อกับสถาบันการเงิน การจัดการปัญหาลักษณะนี้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการซ้ำเติมให้สภาพปัญหายิ่งเลวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ก็คือจะต้องรีบเจรจาขอผ่อนผันและประนอมหนี้กับสถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้ให้ได้ เพื่อปรับแต่งเงื่อนไขข้อผูกพันรายจ่ายค่างวดบ้านใหม่เป็นการชั่วคราว ให้เกิดสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่ายของครอบครัวขึ้นอันจะมีผลทำให้สามารถยืนหยัดฝ่าฟันจนกระทั่งวิกฤติการณ์ผ่านพ้นไปได้ โดยทั่วไปแล้วคนที่เผชิญกับปัญหาผ่อนค่างวดบ้านไม่ได้มีตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยจนถึงขั้นปัญหาขั้นรุนแรง มีหนทางในการเจรจาเพื่อขอผ่อนผันและประนอมหนี้ กับสถาบันการเงินอยู่มากมายถึง 13 หนทางด้วยกัน คือ 1. ขอผ่อนผันชำระยอดหนี้ค้างชำระ โดยลูกหนี้อาจขอผ่อนชำระคืนยอดหนี้ที่ค้างได้นานสูงสุด 36 เดือน ติดต่อกันโดยทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ ลักษณะแรกเป็นการขอเฉลี่ยหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดออกเป็นงวด ๆ งวดละเท่า ๆ กัน และผ่อนชำระคืนติดต่อกันทุกเดือน ลักษณะที่สองเป็นการชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดในเวลาที่ตกลง ( ไม่เป็นงวด ) หรือลักษณะสุดท้ายเป็นการขอชำระหนี้ที่ค้างเป็นเงินก้อนเป็นงวดๆ […]